สมัยตอนพิมยังเด็กๆ มีเมนูนึงที่แม่มักจะชอบทำให้กินบ่อยมากๆ นั่นก็คือต้มสับปะรดกับหมูสามชั้นอ่ะค่ะ
แต่ที่แม่ทำบ่อย ไม่ใช่เพราะว่าลูกๆ ชอบหรือว่าตัวแม่ชอบเองหรอกนะคะ แต่เป็นเพราะว่ายาย (แม่ของแม่) ชอบต่างหาก ^_^ ...... แล้วพอยายเสียไป (ตอนพิมอายุ 20 นิดๆ) แม่ก็แทบจะไม่เคยทำเมนูนี้อีกเลย เหตุผลไม่ใช่เพราะว่ากลัวจะนึกถึงยายหรืออะไรนะคะ แต่แม่บอกว่าตอนยายยังอยู่ ยายชอบเมนูนี้มาก เวลาแม่ทำก็เลยจะทำหม้อโต ๆ แล้วยายก็จะกินเยอะๆ แม่ก็รู้สึกดี แต่พอยายไม่อยู่แล้ว ถ้าทำ....ใครจะช่วยแม่กิน เพราะทั้งบ้านก็มีแต่แม่ ยาย และพิมเท่านั้นที่กินเมนูนี้เป็น ซึ่งถึงพิมจะกินเป็นก็กินแค่ครั้งละนิดหน่อยเท่านั้น แม่ก็เลยไม่ค่อยอยากจะทำ >_< (อย่างนี้เรียกว่าแม่น้อยใจใช่ไหมคะเนี่ยยย) ..... ก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ระยะหลังๆ นานนนนนทีบ้านพิมถึงจะทำต้มสับปะรดกับหมูสามชั้นกินสักทีอ่ะค่ะ ซึ่งบางครั้งมันก็นานจนพิมลืมไปว่ามีเมนูนี้อยู่ในโลกใบนี้ด้วยเน๊าะคะ - -"
พอมาเมื่อสัปดาห์ก่อน พิมถามเพื่อนๆ ในเฟสว่า หน้าร้อนนี้เนี่ยมีเมนูอะไรบ้างที่น่าจะเลือกมาทำกิน ก็มีคนช่วยตอบมาเยอะแยะเลยค่ะ และหนึ่งในนั้นก็มีพี่คนนึงบอกว่าทำต้มสับปะรดกับซี่โครงหมูสิ เป็นเมนูประจำหน้าร้อนเลยนะ .... พิมก็เลยปิ๊งๆๆ และตัดสินใจว่า จะทำเมนูนี้ล่ะค่า
พอวันรุ่งขึ้นจากนั้น พิมก็เลยไปตลาดค่ะ ไปหาซื้อสับปะรดมาหัวนึง ซี่โครงอ่อนมาครึ่งโล แต่.....ปรากฎว่างานเข้า มีเรื่องต้องไปต่างจังหวัดกระทันหัน เลยต้องเก็บทุกอย่างเข้าตู้เย็นเอาไว้ก่อน แล้วพอมาถึงอาทิตย์นี้ก็เลยได้ฤกษ์ขุดเอามาทำอ่ะค่ะ ........ และสุดท้ายก็ได้ออกมาเป็นต้มสับปะรดที่หน้าตาแบบนี้และรสชาติเหมือนกับที่พิมเคยกินในสมัยเด็ก ๆ เป๊ะเลยอ่ะค่า ^_^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- สับปะรด 1/2 ลูก หรือเมื่อหั่นเป็นชิ้นแล้วหนักประมาณ 250 กรัม
- ซี่โครงอ่อน (หมู) หั่นเป็นชิ้นพอคำ 250 กรัม
- กระเทียมไทยกลีบเล็ก 1 ชต.
- รากผักชี 3 รากใหญ่
- พริกไทยขาวเม็ด 1/2 ชช.
- กุ้งแห้งตัวโต ชนิดไม่มีเปลือก 2 ชต.
- น้ำมันพืช 1 ชต.
- น้ำปลา 1/2 ชช.
- น้ำตาลปี๊บ 4 ชต. (บางทีอาจจะใส่มากหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นกับความเปรี้ยวหวานของสับปะรด)
- เกลือป่น 3/4 ชช.
- ผักชี 1 ต้นเล็ก
- น้ำเปล่า 3 + 1/2 ถ้วย
*** รายละเอียดเกี่ยวกับการตวง ถ้วยคืออะไร ถ้วยตวง ชต. ชช. ช้อนตวงคืออะไร วิธีการใช้ถ้วยตวง ช้อนตวง >> คลิ๊กที่นี่ < ** *
*** ในภาพด้านล่าง พิมลืมหยิบกุ้งแห้งมาถ่ายรูปด้วยนะคะ **
*** ปริมาณน้ำตาล เกลือ น้ำปลา ที่ใช้ ขึ้นกับความเปรี้ยวหวานของสับปะรดเป็นหลัก ***
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกให้เราโขลกพริกไทย รากผักชี (ล้าง+หั่นละเอียด) และกระเทียม (ปอกเปลือก) รวมกันให้ละเอียดก่อนนะคะ (เรียกว่า "สามเกลอ")
พอละเอียดดีก็ตักใส่หม้อที่เราจะใช้ต้มสับปะรด ตามด้วยน้ำมันพืช 1 ชต. ค่ะ จากนั้นนำหม้อขึ้นไปตั้งบนเตาไฟ เปิดไฟอ่อน ผัดให้สามเกลอของเราส่งกลิ่นหอม
ก็ใส่ซี่โครงหมูที่ล้างสะอาด และพักให้สะเด็ดน้ำแล้วลงไป ผัดให้ซี่โครงหมูด้านนอกสุกนิดๆ (เป็นสีขาว)
ก็ใส่สับปะรดตามลงไป ผัดให้เข้ากัน และรอจนสับปะรดส่งกลิ่นหอมนิดๆ (ประมาณ 1-2 นาที)
ก็เติมน้ำเปล่าลงไป แล้วเร่งไฟเตาเป็นไฟแรง
รอจนน้ำในหม้อเดือด จะเห็นว่ามีฟองขาวๆ ลอยอยู่เต็มไปหมด ก็ให้เราเอาทัพพีค่อยๆ ช้อนฟองขาวนั้นออกมาจนเหลือน้อยที่สุดนะคะ ^_^ (ตรงนี้แหละที่จะทำให้น้ำต้มสับปะรดของเราไม่ขุ่น)
พอช้อนฟองหมดแล้วก็ปรุงรสด้วยเกลือป่น น้ำปลา น้ำตาลปี๊บค่ะ ....... คนให้น้ำตาล เกลือละลาย แล้วก็ชิมรสตามชอบ ซึ่งตอนนี้จะเป็นการปรุงรสแบบคร่าวๆ ก่อนนะคะ เนื่องจากว่าเดี๋ยวตอนเราเคี่ยวสับปะรดไปสักพัก น้ำจากสับปะรดจะออกมาปนในน้ำซุปในหม้อ ทำให้น้ำซุปของเรารสชาติเปลี่ยนไป ซึ่งตอนท้ายเราจะค่อยมาชิมและปรุงรสกันอีกทีอ่ะค่ะ
...... จากนั้นใส่กุ้งแห้งที่ล้างสะอาดแล้วลงไปนะคะ
หรี่ไฟลงเป็นไฟอ่อน เคี่ยวสับปะรดกับซี่โครงหมูเป็นเวลาประมาณสัก 30 นาทีค่ะ
พอสับปะรดนุ่ม ซี่โครงหมูนุ่มได้ที่ (ตามชอบ) ..... ก็ตักน้ำซุปในหม้อขึ้นมาชิมรสชาตินะคะ ให้ออกหวานนำ เปรี้ยวเค็มตามนิด ๆ ไม่มาก หากชิมแล้วขาดรสไหนไปก็เติมเอาตามชอบ ... เมื่อได้ที่ก็ปิดไฟเตาเลยค่ะ
ถึงเวลาทาน ก็ตักต้มสับปะรดร้อนๆ ของเราใส่ชาม แล้วโรยด้วยผักชีหั่นหยาบนะคะ จะใส่กระเทียมเจียวอีกสักนิดก็ไม่มีปัญหาค่ะ ...... เสริฟพร้อมข้าวสวย ผัดผักรวมมิตรสักจาน ยำปลาทูเค็มสักตัว ..... เท่านี้ก็อร่อยและครบคุณค่าทางอาหารแล้วนะคะ
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ไม่อยากแทะกระดูกหมู - -" จะเปลี่ยนไปใช้หมูสามชั้นแทนก็ได้ค่ะ อร่อยไปอีกแบบ แต่ต้องพยายามเลือกที่มันน้อยๆ หน่อย ไม่งั้นจะเลี่ยนได้นะคะ
ก็ลองไปทำกันดูค่ะ ติดขัดตรงไหนก็มาถามพิมได้ แล้วเจอกันใหม่ในเมนูถัดไป ..... สวัสดีค่า ^_^