เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา พิมไปเที่ยวพัทยากับคุณสามีมาค่ะ แล้วก็มีโอกาสได้ไปทานแกงเผ็ดหมูย่างในโรงแรมที่ไปพัก
แต่ด้วยความที่ลูกค้าส่วนใหญ่ของโรงแรมเป็นนักท่องเที่ยว เป็นชาวต่างชาติซะส่วนใหญ่ ก็เลยอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้แกงเผ็ดหมูย่างของทางโรงแรมมีรสชาติกลางๆ แบบชาวต่างชาติทานได้ คนไทยทานดี ออกหวานนำ เค็มตามนิดๆ ซึ่งไม่ค่อยเข้ากับสไตล์พิมสักเท่าไหร่ >_< ........ พอกลับมาถึงกรุงเทพฯ ก็เลยจัดการลงมือทำซะเองเลยค่ะ ไปซื้อสันคอหมูจากตลาดมา 2 ขีดครึ่ง เอากล้วยดิบ 1 หวีมาจากร้านน้องชาย แล้วก็ปรับจากใช้มะเขือพวงกับมะเขือเจ้าพระยา มาเป็นมะเขือพวงกับกล้วยดิบแทน ซึ่งปกติพิมจะแกงกล้วยดิบกับไก่หรือไม่ก็ปลาขูดซะมากกว่า แต่พอมาแกงกับหมูย่างอย่างนี้ก็เข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อเลยอ่ะค่ะ
มาลองดูหน้าตากันเลยดีกว่านะคะ ^_^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- สันคอหมู 250 กรัม
- พริกแกงแดง 2 ชต.
- หัวกะทิ 1 ถ้วย
- กะทิ 1.5 ถ้วย
- กล้วยไข่ดิบ 6 ลูก (หรือหั่นแล้วได้ประมาณ 1 ถ้วยตวง)
- มะเขือพวง 1/4 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 1 ชต.
- น้ำปลา 1 + 1/2 ชต.
- เกลือป่น 1/4 ชต.
- พริกชีีฟ้าเขียว แดง เหลือง อย่างละ 1 เม็ด
- โหระพา 2 กิ่ง
- ใบมะกรูด 3 ใบ
*** วันนี้พิมใช้กะทิกล่อง แทนหัวกะทิ + กะทิ ในอัตราส่วนกะทิ 1 ถ้วย + น้ำเปล่า 1.5 ถ้วยค่ะ ***
*** รายละเอียดเกี่ยวกับการตวง ถ้วยคืออะไร ถ้วยตวง ชต. ชช. ช้อนตวงคืออะไร วิธีการใช้ถ้วยตวง ช้อนตวง >> คลิ๊กที่นี่ < ** *
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกให้เราแล่หมูสันคอที่เตรียมมา เป็นชิ้นหนาประมาณ 1 ซม. ก่อนนะคะ (ก่อนแล่ ล้างให้สะอาด แล้วซับด้วยผ้าให้แห้งด้วยจ้า) พอหั่นเสร็จ ก็เอาใส่ชาม ตามด้วยน้ำปลา 1/2 ชต. เคล้าให้เข้ากัน แล้วหมักไว้ประมาณ 15 นาทีค่ะ
พอครบ 15 นาทีก็นำไปย่างให้สุก .... จะย่างบนเตาถ่าน ย่างในกระทะ หรือว่าย่างใน Philips airfryer (200 องศา 12 นาที) อย่างพิมก็ได้ค่ะ ..... พอสุก ก็เอามาหั่นไว้เป็นชิ้นยาวพอคำนะคะ (เดี๋ยวดูขนาดชิ้นในขั้นตอนการปรุงได้ค่ะ) ..... หั่นเสร็จก็พักเอาไว้ก่อน
ต่อมาเราจะมาจัดการกล้วยกันนะคะ ..... สำหรับกล้วยดิบเนี่ย ปกติพิมจะใช้กล้วยอยู่ 3 ชนิด คือ กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ และก็กล้วยเล็บมือนาง โดยกล้วยน้ำว้าเนี่ยเนื้อจะขาว หนึบเหนียว กล้วยไข่เนื้อสีเหลือง หนึบแต่ไม่เหนียวเท่ากล้วยน้ำว้า และออกรสหวานกว่า ส่วนกล้วยเล็บมือนางจะลูกเล็ก เนื้อหนียว เป็นที่นิยมทางภาคใต้ ....... ซึ่งเพื่อนๆ สามารถจะเลือกใช้กล้วยได้ตามที่มีหรือตามที่ชอบได้ทั้งนั้นนะคะ แต่ทั้งหมดต้องเป็นกล้วยแก่ ที่ยังดิบอยู่อ่ะค่ะ
วันนี้พิมมีกล้วยไข่ดิบอยู่ เพราะงั้นก็ขอใช้กล้วยไข่นะคะ ...... นำกล้วยไข่มาปอกเปลือก ไม่ต้องปอกหมดก็ได้ค่ะ ให้เหลือสีเขียวๆ เยื่อๆ ไว้บ้างก็ไม่มีปัญหา ปอกเสร็จ หั่นเฉียงไปมาเป็นชิ้นพอคำ แช่ในน้ำสะอาดผสมเกลือป่นเล็กน้อยให้พอมีรสเค็มปะแหล่มๆ ประมาณสัก 10 นาทีนะคะ
จากนั้นก็สรงกล้วยขึ้น ล้างน้ำสะอาด 1 น้ำ แล้วก็นำไปต้มในน้ำเดือดจัด+ไฟกลาง ประมาณสัก 3 นาที หรือจนกล้วยสุก ก็ปิดไฟเตา แล้วตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำได้เลยค่ะ
ต่อมาก็เด็ดใบมะกรูดเป็นชิ้นเล็ก ๆ นะคะ .. ใบมะกรูดเนี่ย เลือกใบแก่นิดนึง แต่ไม่ถึงกับแก่มาก ล้างน้ำให้สะอาดก่อนค่อยเอามาเด็ดค่ะ ส่วนโหระพาก็เด็ดไว้เป็นใบ ๆ นะคะ ถ้ามีดอกที่ตรงปลายอด เด็ดทิ้งไป เราไม่ใช้ค่ะ
พริกชี้ฟ้าเขียว แดง เหลือง ... ซอยเฉียงๆ ไว้นะคะ ถ้ามีไม่ครบสีก็ไม่เป็นไรค่ะ เอาเท่าที่มี / มะเขือพวง เลือกที่ไม่อ่อนและไม่แก่มาก เด็ดเอาแต่ลูกไว้ แล้วล้างน้ำให้สะอาดค่ะ
เมื่อเตรียมผัก เตรียมหมูเรียบร้อยแล้ว ก็มาลงมือแกงกันเลยดีกว่าค่า ^_^
ตั้งกระทะหรือหม้อบนเตาไฟนะคะ ใส่หัวกะทิ หรือกะทิกล่อง+น้ำเปล่านิดหน่อย ลงไปประมาณ 1/2 ถ้วย เคี่ยวให้กะทิแตกมันนิดๆ แล้วใส่พริกแกงลงไปผัดให้หอมและแตกมันเป็นสีแดงสวยค่ะ
จากนั้นก็เติมกะทิที่เหลือลงไป ตามด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น ..... รอเดือด น้ำตาลละลาย ก็ชิมรสตามชอบ ให้ออกเค็มนำนิดๆ หวานตามพอกลมกล่อมนะคะ
พอได้รสที่ชอบแล้วก็ใส่มะเขือพวง กับหมูย่างที่เราหั่นไว้แล้วลงไป
ตามด้วยกล้วยดิบต้มสุก คนพอเข้ากัน แล้วเคี่ยวไปสักแป๊บด้วยไฟอ่อนประมาณ 3-5 นาทีให้น้ำแกงซึมเข้าไปในกล้วยและหมูย่างนุ่ม
ก็ใส่พริกชี้ฟ้าซอย ใบมะกรูดฉีก ใบโหระพาลงไป (ท่ามกลางน้ำแกงเดือดๆ)
คนพอเข้ากัน ..... ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ
ถึงเวลาทาน ก็ตักแกงเผ็ดหมูย่างของเราใส่ถ้วย แล้วเสริฟคู่กับปลาช่อนเค็มทอด ปลาสลิดแดดเดียวทอด หรือปลาอินทรีเค็มทอด กับข้าวสวยร้อน ๆ สักจาน ..... เท่านี้ก็อร่อยจนไม่อยากเลิกทานแล้วอ่ะค่ะ ^_^
เคล็ดลับของเมนูนี้คือ ย่างหมูให้แค่พอสุก อย่าย่างให้หมูแข็งเกินไป จะทำให้ทานไม่อร่อยนะคะ .... และถ้าไม่ทานหมู สามารถใช้ไก่แทนได้ อร่อยเหมือนกันเลยอ่ะค่ะ หรือไม่งั้นจะเป็นพวกเนื้อปลากรายขูดก็ได้นะคะ
ยังไงไปลองทำทานกันดูค่ะ ...... แล้วพบกับความอร่อยจากพิมใหม่ในเมนูถัดไปนะคะ ^_^