สมัยตอนพิมยังเด็ก ๆ เนี่ย มักจะได้ยินคนเฒ่าคนแก่ ปู่ย่าตายายพูดให้ฟังอยู่บ่อย ๆ ว่า ถ้าอยากกินของอร่อย ให้กินของตามฤดูกาลนะคะ
ของกินตามฤดูกาลก็คือ ฤดูไหนมีพืชผักผลไม้อะไรก็กินแบบนั้นค่ะ ซึ่งความดีงามของการกินตามฤดูกาลคือ รสชาติของอาหารนั้น ๆ จะอร่อยขั้นสุด แล้วก็ราคาถูก ที่สำคัญปนเปื้อนพวกสารเคมีน้อย เพราะไม่ผ่านการฉีดพ่นยาเร่งให้ออกดอกออกผลนะคะ
สำหรับช่วงนี้ที่เป็นช่วงของหน้าหนาว ก็จะมีผักผลไม้อยู่หลายอย่างที่เป็นของกินตามฤดูกาลค่ะ เช่น กุ้งแม่น้ำ ปลาลิ้นหมา ชมพู่ม่าเหมี่ยว ส้มเขียวหวาน สตรอเบอรี่ ปลาทู และอื่น ๆ อีกหลายอย่าง รวมไปถึงสะเดาด้วยนะคะ
เพราะงั้นวันนี้พิมก็เลยจะมาชวนเพื่อนทำเมนูอร่อยจากสะเดากันค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าหนีไม่พ้น "สะเดา-น้ำปลาหวาน" อย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นเมนูสุดโปรดของพิมแล้ว เมนูนี้ก็ยังทำไม่ยากนะคะ ที่สำคัญสูตรนี้นอกจากจะเอาไปทำกินได้แล้ว ก็ยังเอาไปทำขายได้ด้วย รับรองเลยว่าใครได้กินก็ติดใจแน่นอนค่ะ 😊😊
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- น้ำมะขามเปียก 300 กรัม
- น้ำตาลมะพร้าว 350 กรัม
- น้ำตาลทราย 140 กรัม
- น้ำเปล่า 80 กรัม
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น (ที่ไม่ใช่เกลือไอโอดีน) 1 ช้อนชา
- หอมแดงซอย 300 กรัม
- น้ำมันพืช ครึ่งขวด หรือน้อยกว่านี้ก็ได้
- สะเดา 2 กำ หรือตามชอบ
- ปลาดุกย่าง หรือ กุ้งย่าง ตามชอบ
- พริกทอดตามชอบ
*** พิมใช้มะขามเปียกไม่มีเมล็ดแต่มีซัง 70 กรัม คั้นกับน้ำเปล่า 275 กรัม จะได้น้ำมะขามประมาณ 300 กรัมตามด้านบน
*** น้ำปลาหวานสูตรนี้ ทำเสร็จแล้วจะได้น้ำปลาหวานประมาณ 550 - 650 กรัม ขึ้นกับระยะเวลาในการเคี่ยว
*** ถ้าใครไม่กินสะเดา ก็ใช้ผักชีแทนได้
:: วิธีทำ ::
เริ่มต้นเดี๋ยวเรามาทำน้ำปลาหวานกันก่อนเน๊าะคะ เพราะว่าน้ำปลาหวานเนี่ย สามารถทำเก็บไว้ล่วงหน้าได้หลายวันเลยค่ะ 😊
เริ่มจากหยิบหม้อมาใบนึง ใส่น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย (พิมใช้แบบไม่ขัดสี) เกลือสมุทรป่น น้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำเปล่าลงไปนะคะ
จากนั้นยกหม้อขึ้นตั้งเตา ใช้ไฟกลาง แล้วใช้ทัพพีคนไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายหมดค่ะ
ถึงตรงนี้ก็ใช้ช้อนตักน้ำปลาหวานในหม้อขึ้นมาชิมสักหน่อย ว่ารสชาติเป็นไปในแบบที่เราชอบไหมนะคะ เพราะถึงเราจะใช้สูตรน้ำปลาหวานเดียวกัน แต่ด้วยความที่มะขามเปียกจากแต่ละแหล่งที่มามีความเปรี้ยวหวานไม่เท่ากัน เพราะงั้นแล้วรสชาติน้ำปลาหวานในหม้อของพิมกับของเพื่อน ๆ ก็อาจจะแตกต่างกันได้ค่ะ 😊
และเมื่อเพื่อน ๆ ลองชิมแล้ว ถ้ารู้สึกว่าหวานไป ก็อาจจะเติมน้ำมะขาม น้ำปลาเพิ่ม หรือถ้ารู้สึกว่าเปรี้ยวไป ก็อาจจะเติมน้ำตาลปี๊บ/น้ำตาลทรายเพิ่มได้นะคะ
และเมื่อได้รสชาติที่ชอบแล้ว เพื่อความใสของน้ำปลาหวาน ก็ให้เราค่อย ๆ ใช้ทัพพีช้อนฟองที่อยู่บนหน้าน้ำปลาหวานออกด้วยค่ะ พยายามช้อนออกให้หมดหรือไม่ก็ให้เหลือน้อยที่สุดนะคะ
*** พิกัดซื้อกระชอนสำหรับช้อนฟองแบบในภาพ
Lazada แบบด้ามแสตนเลส >> https://s.lazada.co.th/l.bvxo
Lazada แบบด้ามไม้ >> https://s.lazada.co.th/l.by2E
Shopee แบบด้ามแสตนเลส >> https://shope.ee/5zrQN1PabM
และเมื่อช้อนฟองออกหมดแล้ว ก็ลดไฟเตาลงเป็นไฟอ่อน แต่ไม่ต้องอ่อนมาก แล้วเคี่ยวน้ำปลาหวานไปสักประมาณ 15 นาที หรือจนได้ความข้นเหนียวใกล้เคียงกับที่เราต้องการ ก็ปิดไฟเตา แล้วยกหม้อลงตั้งพักไว้ให้เย็นค่ะ 😊😊
*** พอน้ำปลาหวานเย็นสนิทแล้ว น้ำปลาหวานจะข้นเหนียวกว่าตอนร้อนประมาณนึงนะคะ เพราะงั้นอย่าเคี่ยวน้ำปลาหวานจนได้ความข้นตามที่เราต้องการ ไม่งั้นพอเย็นสนิทแล้วจะเหนียวเกิน แต่ ... ถ้าหากเผลอเคี่ยวนานจนเกินไป พอน้ำปลาหวานเย็นสนิทแล้วมันเหนียวเกิน ก็ค่อย ๆ เติมน้ำต้มสุกลงไปทีละ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วคนให้เข้ากับน้ำปลาหวาน ถ้ายังข้นเหนียวอยู่ ก็เติมไปอีก 1 ช้อนโต๊ะ สลับกันการคน จนได้ความข้นเหนียวของน้ำปลาหวานตาที่ชอบค่ะ 😊
ระหว่างที่เราพักให้น้ำปลาหวานเย็นสนิท เราก็จะมาเจียวหอมแดงกันนะคะ
วิธีเจียวหอมแดงก็ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย สำคัญอย่างเดียวคืออย่าใจร้อน อย่าใช้ไฟแรงเกิน ไม่งั้นหอมแดงจะเหลืองสวยไม่ทั่วกัน และกรอบไม่นานค่ะ 😊😊
ให้เราหยิบกระทะมาใบนึง ใส่น้ำมันลงไป แล้วเปิดไฟกลางนะคะ (ไฟกลางของแต่ละบ้าน อาจจะไม่เท่ากัน ยังไงค่อย ๆ ลองดูน๊า) ... และพอน้ำมันเริ่มร้อน ก็ใส่หอมแดงที่เราซอยไว้ลงไปเลยค่ะ (ไม่ต้องเอาหอมแดง ไปตากลม ตากแดด หรือว่าคลุกแป้ง คลุกเกลือก่อน) แล้วก็คอยคนเป็นระยะ ไม่ต้องคนตลอด อาจจะสักนาทีละครั้งนะคะ ซึ่งช่วงนี้จะใช้เวลานิดนึง ประมาณ 8-10 นาทีได้ ยิ่งถ้าเจียวหอมแดงในปริมาณเยอะ ยิ่งใช้เวลามากขึ้นค่ะ
แล้วพอหอมแดงเริ่มมีสีเหลืองนิด ๆ ตรงนี้แหละ ที่เราจะต้องคอยคนตลอดนะคะ ไม่งั้นหอมเจียวจะมีสีเหลืองไม่เสมอกัน และพอหอมเจียวมีสีเหลืองทองใกล้เคียงกับสีที่เราต้องการแล้ว ก็ให้ปิดไฟเตาได้เลย แล้วใช้ทัพพีคนหอมเจียวต่อไปอีกสักแป๊บ จนได้หอมเจียวที่มีสีเหลืองเสมอกัน ก็ตักขึ้นใส่กระด้งหรือถาดพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันค่ะ
แล้วเราก็จะได้หอมแดงเจียวออกมาหน้าตาแบบนี้นะคะ ขอบอกว่า ..... แค่กลิ่นก็หอมไปสามบ้านแปดบ้านล่ะค่า ยิ่งพอได้ชิม บอกเลยว่า กรอบบบบ และหวานมากๆ ค่ะ 😊
เมื่อเตรียมน้ำปลาหวาน เตรียมหอมเจียวเสร็จแล้ว สิ่งสุดท้ายที่เราจะต้องทำก็คือลวกสะเดา แต่ถ้าใครชอบกินแบบสด ๆ ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลยนะคะ
*** ในโพสต์นี้พิมไม่ได้แสดงวิธีย่างปลาดุกให้ดูน๊า ไว้เดี๋ยวพิมจะแยกทำไว้อีกให้อีกโพสต์ค่ะ
แต่ก่อนจะไปลวกสะเดา พิมขอพูดถึงสะเดาก่อนล่ะกัน ... สะเดาที่ขายกันในตลาดตอนนี้มีอยู่ 2 แบบนะคะ คือสะเดาก้านขาว เป็นสะเดามันหรือสะเดาที่ขมน้อย แต่ก็ยังขมอยู่ 😂😂 และสะเดาก้านแดง เป็นสะเดาแบบดั้งเดิมที่ขมสุด ๆ ... ใครชอบแบบไหนก็เลือกซื้อแบบนั้นมากินได้เลยค่ะ
วิธีลวกสะเดาก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก ให้เราตั้งหม้อหรือกระทะก็ได้บนเตา ใส่น้ำลงไปมากหน่อย (กะว่าให้ท่วมสะเดา) แล้วเปิดไฟกลางค่อนไปทางแรงนะคะ พอน้ำเดือดจัด ๆ ก็ใส่สะเดาที่เตรียมไว้ลงไปลวกเลยค่ะ ใครที่ชอบสะเดาแบบขมน้อยหน่อย ก็ลวกให้นานนิดนึง หรืออาจจะลวก 2 รอบ 3 รอบก็ได้ ตามที่ชอบนะคะ ส่วนพิมเป็นประเภทชอบสะเดาขมก็เลยลวกสะเดาแค่พอสะดุ้งน้ำร้อน (ลวกแป๊บเดียว) แล้วก็เอาขึ้นแช่ในกะละมังน้ำเย็นจัด เพื่อให้สะเดายังคงสีเขียวสวยค่ะ 😊
แล้วเราก็จะได้สะเดาลวกออกมาหน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนี้นะคะ 😊😊
ถึงเวลากินข้าว ก็ตักน้ำปลาหวานใส่ถ้วย ตามด้วยหอมเจียว พริกทอด แล้วเสิร์ฟคู่กับสะเดาลวก ปลาดุกย่าง ..... เท่านี้เราก็จะได้กับข้าวที่อร่อยมาก ๆ แบบข้าวหมดหม้อหมดไหไม่รู้ตัวเลยค่ะ 😅😅
สำหรับใครที่ไม่กินสะเดา ไม่กินปลาดุกย่าง ก็อาจจะใช้ผักชี หรือว่ากุ้งย่าง ปลานิล ปลาทับทิม ปลาช่อน ย่างหรือทอดแทนได้ตามที่ชอบนะคะ
ส่วนน้ำปลาหวานกับหอมเจียว ถ้าทำแล้วกินไม่หมด ก็สามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 1 สัปดาห์นะคะ หรือถ้าใครเบื่อสะเดาน้ำปลาหวานแล้ว ก็สามารถเอาน้ำปลาหวานกับหอมเจียวไปทำไข่ลูกเขยได้เลย หรือไม่จะเอาไปเป็นเบสของน้ำผัดไทก็ได้ค่ะ
ยังไงลองไปทำกันดูน๊า ติดขัดตรงไหนก็แวะมาถามไถ่กันได้ พิมจะเข้ามาตอบให้เรื่อย ๆ นะคะ
ท้ายสุด...สุดท้าย ขอบคุณ Korea King ที่ส่งหม้อเหลี่ยมเพชร Koreaking Pot Diamond 2 Series มาให้พิมลองใช้ด้วยค่า หม้อดีงามมาก ขนาดกำลังเหมาะ ดีไซน์ก็สวยนะคะ แถมคุณสมบัติดี ๆ อีกเพียบเลยค่ะ
✅ มุมเหลี่ยมด้านนอกหม้อ ช่วยทำให้หม้อร้อนไว กระจายความร้อนได้ดี
✅ ทำให้ประหยัดเวลา และประหยัดพลังงานที่ใช้ในการหุงต้ม
✅ ลายดอกพุดด้านในหม้อ ช่วยให้หม้อลื่น ลดการเกาะติดของอาหาร
✅ ฝาแก้วมาพร้อมกับรูไอน้ำ
✅ ทำความสะอาดง่าย ใช้ได้กับทุกเตา
✅ ขนาดกว้างถึง 18 CM. (1 ลิตร)
สั่งซื้อที่
โทร : 02-126-3121 / 02-123-1499
Inbox Page : m.me/KoreaKingShop
Line : @koreakingbrand
แล้วเจอกันใหม่ในเมนูถัดไป สวัสดีค่า 😊😊