ถ้าพูดถึง #บุรีรัมย์ พิมเชื่อว่าเกือบทุกคนจะต้องนึกถึงทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเตด นึกถึงสนามฟุตบอลไอโมบาย  นึกถึงสนามแข่งรถช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต  หรือไม่ก็นึกถึงลุงเนวินกันซะเป็นส่วนใหญ่เน๊าะคะ   

แต่เชื่อไหมว่าจริง ๆ แล้วบุรีรัมย์ยังมีของดีของเด่นที่น่าสนใจอีกเยอะมาก   โดยเฉพาะของกินของใช้ อย่างผ้าไหมบ้านนาโพธิ์ กุนเชียงพนมรุ้ง  ขาหมูนางรอง  ข้าวภูเขาไฟบ้านโคกเมือง  รวมไปถึง #กุ้งจ่อมประโคนชัย ด้วยค่ะ 

ต้นเดือนที่ผ่านมา พิมมีโอกาสได้กลับไปบุรีรัมย์อีกครั้งหลังจากที่เคยไปมาเมื่อสัก 4 ปีที่แล้วนะคะ   ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ นอกจากจะไปเที่ยวพักผ่อนเพื่อชาร์จแบตให้ตัวเองที่แบตใกล้จะหมดเต็มทีแล้ว T__T    พิมก็ตั้งใจว่าจะไปตามหาอาหารที่ทำจากกุ้งจ่อมนี่แหละค่ะ  แต่ก่อนที่จะไปตามหาอาหารอร่อย ๆ ที่ทำจาก #กุ้งจ่อม  พิมก็อยากจะเม้ามอยเรื่องกุ้งจ่อมให้เพื่อน ๆ ฟังสักหน่อยนึง เผื่อว่าอาจจะยังมีใครที่ไม่รู้จักของดีของเด็ดอันนี้นะคะ 

กุ้งจ่อม ...  เป็นอาหารพื้นเมืองของภาคอิสานที่ชาวบ้านเค้าทำกินกันมาตั้งแต่สมัยโบราณค่ะ   จนปัจจุบันนี้ก็กลายเป็นอาหารขึ้นชื่ออย่างนึงของชาวอีสาน โดยเฉพาะที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์นะคะ    กุ้งจ่อมเป็นอาหารประเภทหมักดองที่ได้จากการเอากุ้งฝอยมาหมักกับเกลือหรือน้ำปลาและข้าวคั่ว ประมาณ 5-10 วัน    รสชาติของกุ้งจ่อมก็จะออกเปรี้ยวนำ เค็มตามเล็กน้อย  มีความนุ่มมัน ไม่มีกลิ่นคาว  จะเอามาทานทั้งแบบดิบ ๆ เหมือนอย่างหอยดอง หรือเอามาทำให้สุกก่อนก็ได้  อร่อยทุกแบบเลยค่ะ  ^_^

ตอนแรกที่พิมไปบุรีรัมย์รอบนี้  พิมติดต่อร้านขายกุ้งจ่อมชื่อดังร้านนึงที่ประโคนชัยเอาไว้ เป็นร้านญาติเพื่อนพิมนะคะ   เค้าบอกว่าจะสาธิตวิธีการทำกุ้งจ่อมให้ดู ว่าตั้งแต่ได้กุ้งมาจะต้องทำยังไง ถึงจะได้ออกมาเป็นกุ้งจ่อมอร่อย ๆ ค่ะ  แต่ปรากฎว่าช่วงที่พิมไปเป็นช่วงที่กุ้งฝอยขาดตลาดพอดี    ก็เลยอดไปนะคะ    แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามทางร้านเค้าก็ได้ฝากสูตรกุ้งฝอยอร่อย ๆ มาให้พิมได้ลองทำเอง  ซึ่งเดี๋ยวตอนจบของทริปนี้พิมจะแปะสูตรเอาไว้ให้ทุกคนไปลองทำกันดูค่ะ  ^_^

โอเคค่ะ ไหน ๆ มาถึงบุรีรัมย์ทั้งทีแล้ว  ถึงแม้จะไม่ได้ไปชมวิธีการทำกุ้งจ่อม  แต่เราก็มีร้านอาหารที่นำเอากุ้งจ่อมมาทำเป็นอาหารอร่อย ๆ อยู่หลายร้านนะคะ   ซึ่งวันนี้พิมจะพาไปกินทั้งหมด 5 ร้านด้วยกัน รับรองว่าเด็ดทุกร้าน จะมีร้านไหนบ้าง ตามพิมมาเลยค่า 

ร้านแรก  "ร้านบ้านพีท" 

ร้านนี้เนี่ยอยู่ในอำเภอประโคนชัย ใกล้ ๆ กับถนนสายกุ้งจ่อมของ อ. ประโคนชัยเลยค่ะ เรียกว่าถ้าขับรถจากกรุงเทพฯ สระบุรี โคราช ไปบุรีรัมย์ จะต้องผ่านร้านบ้านพีทอย่างแน่นอน  ซึ่งร้านบ้านพีทมีเมนูเด็ด ๆ ที่ทำจากกุ้งจ่อมอยู่หลายเมนู  วันนี้พิมก็เลือกสั่งมา 3 เมนูนะคะ 

เมนูแรก .. กุ้งจ่อมผัด (90-)   ทางร้านเค้าจะเอากุ้งจ่อมเฉพาะเนื้อกุ้ง ไปผัดรวมกับสมุนไพรต่าง ๆ จนแห้ง ออกมาคล้ายน้ำพริกแห้ง รสอ่อนๆ   ทานคู่กับผักสด อร่อยแบบนัว ๆ ค่ะ 

เมนูที่สอง .. ไข่เจียวกุ้งจ่อม (75-) ต้องบอกเลยว่าเป็นเมนูไข่เจียวกุ้งจ่อมที่อร่อยที่สุดเท่าที่พิมเคยกินมา  ตัวไข่เจียวกรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมันสักนิด  แล้วก็มีกลิ่นหอม มีรสเปรี้ยวนิด ๆ จากกุ้งจ่อม ตัดกับรสเค็มอ่อน ๆ  กินกับข้าวสวยร้อน ๆ เอาเสต๊กมาแลกก็ไม่ยอมนะคะ ^_^

เมนูที่สาม .. หลนกุ้งจ่อม (90-) เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทางร้านเค้าเอากุ้งจ่อมมาผสมผสานกับหัวกะทิแบบเข้มข้น ใส่สมุนไพรหลากหลาย ปรุงรสให้เปรี้ยวนิด ๆ เค็มเผ็ดตาม ทานคู่กับผักสด ๆ อร่อยยกนิ้วเลยค่ะ 

นอกจากเมนูกุ้งจ่อม ที่ร้านบ้านพีทเค้าก็ยังมีเมนูอร่อยอีกหลายอย่าง  เช่น  ยำหอยนางรมที่ให้หอยเยอะมาก เหมือนกับว่าทางร้านทำฟาร์มหอยนางรมเอง ^_^      ถ้าใครไปร้านนี้ก็ลองสั่งมาทานกันนะคะ 

ร้านที่สอง "เชฟพลัส คาเฟ่ แอนด์ บิสโทร" 

เป็นร้านอาหารที่อยู่ในตัวเมือง ใกล้ ๆ กับอนุสาวรีย์ ร.1  เปิดประมาณ 10 โมงเช้าค่ะ    ที่ร้านนี้มีเมนูอาหารหลากหลายมาก ทั้งไทยจีนฝรั่ง อาหารคาว อาหารว่าง อาหารหวาน กาแฟ  ซึ่งเท่าที่พิมได้ลองชิมไป 3-4 เมนู อย่าง ไข่เจียวสุกี้กระทะร้อน  ผัดกะเพราหมูคั่วพริก  ซี่โครงหมูย่างสมุนไพร  พิมว่ารสชาติอาหารเค้าโอเคมากๆ  นะคะ   แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวมาถึงที่นี่แล้ว พิมก็อยากให้ลองสั่งเมนูกุ้งจ่อมมาลองค่ะ  ซึ่งทีนี้เค้าก็มีเมนูกุ้งจ่อมผัดทรงเครื่อง  (120-)  จะต่างกับร้านอื่นตรงมีส่วนผสมของหมูสับด้วย แล้วก็ผัดมากับสมุนไพรหลายอย่างแบบแฉะ ๆ หน่อย  รสชาติเปรี้ยวนำนิด ๆ เค็มตามเบา ๆ ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ เข้ากันมากนะคะ 

ร้านที่สาม "เพ ลา ภิรมย์" 

ร้านนี้เป็นร้านอาหารที่อยู่ใกล้ ๆ กับอุทยานดอกไม้ เพ ลา เพลิน ถ้าขับรถไปเอง ก็ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจากตัวเมืองบุรีรัมย์ค่ะ   ที่นี้หลัก ๆ แล้วเค้าก็เด่นในเรื่องของการทำอาหารแบบอิสานฟิวชั่น คือ นำวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างกุ้งจ่อม  เหล้าอุ มาปรุงเป็นอาหารตามยุคสมัยอ่ะค่ะ    เพราะนั้นวันนี้พิมก็เลยลองสั่งมาทาน 2 เมนู

เมนูแรก ... น้ำพริกกุ้งจ่อม (120-)  เมนูนี้เชฟเค้าจะเอาเฉพาะเนื้อกุ้งจ่อมมาผัดรวมกับเครื่องต่าง ๆ ที่โขลกรวมกันจนละเอียด อย่าง ข่า ตะไคร้ พริก หอม กระเทียม ฯ ให้สุก ออกมาเป็นน้ำพริกกุ้งจ่อมที่รสชาติจัดจ้านมาก แต่ไม่เผ็ดเปรี้ยวเกิน  ให้ความรู้สึกคล้ายๆ  กับพวกน้ำพริกตาแดง ปลาร้าบอง  ยิ่งกินคู่กับผักสด ๆ หรือข้าวเหนียวร้อนๆ  ยิ่งอร่อยมากขึ้นนะคะ 

เมนูสอง ... สปาเกตตี้กุ้งจ่อม (120-)  เป็นเมนูที่พิมตั้งใจขับรถมาชิมโดยเฉพาะเลยค่ะ  เมนูนี้เนี่ย เชฟเค้าจะเอากุ้งจ่อมไปทำอะไรสักอย่าง ที่พิมไม่สามารถแกะสูตรได้ 555 แล้วก็เอามาผัดกับสปาเกตตี้เส้นเล็กนะคะ รสชาติก็จะเป็นแบบเปรี้ยว เค็ม เผ็ด นัว ๆ นวล ๆ    เป็นอีกเมนูที่พิมแนะนำ  เพราะว่าพิมทานเมนูนี้คนเดียวจนหมดจานเลยค่ะ  ^_^

ร้านที่สี่ "1 UP! Cuisine"

เป็นร้านอาหารที่อยู่ในโรงแรม Cresco ใกล้ ๆ กับสนามไอโมบายนะคะ  ร้านนี้นอกจากจะมีบรรยายกาศที่สุดแสนจะชิลด์ เพราะตัวร้านติดกับสระว่ายน้ำของโรงแรมแล้ว  ที่นี้ก็ยังมีเมนูสปาเกตตี้กุ้งจ่อมเส้นแองเจิ้ลแฮร์ (250-) ที่ไม่ควรพลาดอีกด้วยค่ะ   เพราะนอกจากเค้าจะต้มเส้นมาได้แบบสุกกำลังดี ไม่นุ่มไป ไม่แข็งไป   ในเครื่องที่ผัดเค้าก็ใส่กุ้งจ่อมมาเยอะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้รสจัดเกิน  ออกเปรี้ยวเค็ม  แล้วก็มีรสเผ็ดจากพริก  รสมัน ๆ จากไข่กุ้งและพาเมซานชีส มาตัดเปรี้ยวให้กลมกล่อมด้วยนะคะ   ใครที่ชอบเมนุเส้น ๆ พิมว่าน่าจะถูกใจเมนูนี้อย่างแน่นอนค่ะ 

ส่วนเมนูของคุณสามี มะกะโรนีอบชีส (120-ป  เค้าก็ทำมาได้ดีนะคะ  มีความเข้มข้น หอมชีส และชีสก็เยอะมาก กินเพลินเลยค่ะ 

ร้านสุดท้าย  "ร้านบ้านชายน้ำ"

ร้านนี้เรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารชื่อดังของเมืองบุรีรัมย์นะคะ  อยู่ในบริเวณตัวเมือง ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์ ร.1 มากเท่าไหร่  เป็นร้านที่คนในท้องถิ่น ข้าราชการ หน่วยงานต่าง ๆ บริษัทต่างๆ  นิยมที่จะใช้เป็นร้านรับรองแขกบ้านแขกเมืองค่ะ   ร้านนี้บรรยากาศก็จะออกแนวพื้นบ้านหน่อย  มีทั้งโซนที่อยู่ในสวน  โซนติดริมน้ำ  โซนที่เป็นห้องแอร์ และโซนในร่มนะคะ   ส่วนอาหารของที่นี้ก็จะเป็นอาหารอิสานซะส่วนใหญ่  ซึ่งเท่าที่พิมได้ชิมไป ก็จะรสชาติค่อนข้างดีถึงดีมาก  โดยเฉพาะ #ยำแตร๊ยปรัย กับ #กุ้งจ่อมทรงเครื่อง เป็นเมนูที่พิมว่าถ้ามาร้านนี้แล้ว ควรต้องสั่งมาทานค่ะ 

ยำแตร๊บปรัย (150-).. เป็นยำกุ้งจ่อมแบบดิบนะคะ  ที่ร้านเค้าก็จะเอากุ้งจ่อมมายำรวมกับสมุนไพรต่างๆ เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด ต้นหอม ผักชี พริก หอมแดง  ออกรสเปรี้ยวนำแบบจี๊ด ๆ หน่อย ตามด้วยเค็ม เผ็ดตามแบบจัด ๆ เวลาทานต้องทานคู่กับผักสด ๆ อย่าง มะม่วงเปรี้ยว ขมิ้นขาว  ถั่วพู บวบงู ฯ จะเข้ากันมากเลยค่ะ

ส่วน กุ้งจ่อมทรงเครื่อง (150-) .. ก็จะมีส่วนผสมคล้ายกับยำแตร๊ยปรัย  แต่จะเป็นแบบทำผัดสุกเรียบร้อยแล้วนะคะ  รสชาติก็จะเบา ๆ กว่ายำแตร๊ยปรัยหน่อยนึง  แต่ก็ยังคงรสชาติจัดจ้านเหมือนกัน และจัดจ้านที่สุดในบรรดาทุกร้านที่พิมได้ไปลองทานมาเลยค่ะ 

และเมื่อพิมตระเวนทานอาหารอร่อย ๆ ที่ทำจากกุ้งจ่อมจนสมใจอยากแล้ว ก่อนจะกลับกรุงเทพฯ  พิมก็คิดถึงคนที่บ้าน คิดถึงเพื่อน ๆ อยากซื้ออะไรไปฝากทุกคนสักหน่อยนะคะ  ^_^   แน่นอนว่าก็หนีไม่พ้น "กุ้งจ่อม" ล่ะค่ะ   ซึ่งที่บุรีรัมย์ หากเราอยากจะไปยังแหล่งที่มีขายกุ้งจ่อมเยอะๆ  ก็ต้องไปที่ถนนอำนวยกิจ ที่อยู่ในอำเภอประโคนชัยนะคะ  เพราะที่นี่เนี่ยมีร้านขายกุ้งจ่อมเยอะมาก  เยอะจนมีคนเรียกถนนนี้ในอีกชื่อว่า ถนนสายกุ้งจ่อมเลยค่ะ 

สำหรับกุ้งจ่อมที่ขายกันอยู่ในถนนสายนี้เนี่ย ก็จะมีทั้งกุ้งจ่อมแบบดิบ ๆ ที่ให้เราเอาไปปรุงเป็นอาหารต่อได้  และกุ้งจ่อมแบบที่แปรรูปเป็นอาหารพร้อมกินเรียบร้อยแล้ว อย่างน้ำพริกกุ้งจ่อม กุ้งจ่อมบองสมุนไพร  น้ำพริกกุ้งจ่อมกระเทียม  น้ำพริกกุ้งจ่อมสามรส  น้ำพริกเปียกกุ้งจ่อม  กุ้งจ่อมผัดสามรส ฯ นะคะ

สำหรับกุ้งจ่อมแบบดิบ  บางคนอาจจะบอกว่าร้านโน้นอร่อย ร้านนี้อร่อย  แต่เท่าที่พิมลองซื้อมาทานเอง และที่มีคนซื้อมาฝาก  พิมพบว่าร้านเดียวกัน แต่ถ้าซื้อต่างเวลากัน รสชาติความเปรี้ยวเค็มก็จะต่างกันค่ะ  ขึ้นอยู่กับระยะเวลาว่าทางร้านเก็บไว้นานแค่ไหนก่อนจะมาถึงมือเรานะคะ  เพราะนั้นเวลาไปซื้อ  ก็บอกทางร้านไปเลยค่ะว่าอยากได้ความเปรี้ยวเค็มประมาณนี้ หรือขอชิมเลยก็ได้  ถ้าถูกใจก็ค่อยซื้อค่ะ   ราคาไซส์เล็ก (ถุง/กระปุก)  35 บาท กลาง 50 บาท  ส่วนใหญ่สุดก็ 100 บาท ... เป็นราคาที่สบายกระเป๋าอยู่นะคะ ^_^

 

ส่วนกุ้งจ่อมแบบที่แปรรูปเรียบร้อยแล้ว  ก็จะมีหลากหลายอย่างที่พิมบอก  พิมเลยลองซื้อมาชิมดูว่าแต่ละอย่างเป็นยังไง เผื่อว่าเพื่อนๆ  จะเอาไปใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจซื้อได้ค่ะ 

กุ้งจ่อมบองสมุนไพร (คุณย่านาง) ... เป็นน้ำพริกเปียก ถ้ามองจากหน้าตาอย่างเดียวก็จะเหมือนกับปลาร้าบองค่ะ  ส่วนผสมก็จะมีพวกหมูบด หอมเจียว พริกป่น กุ้งจ่อม ปลาป่น แล้วก็สมุนไพรอีกหลายอยาง เอามาผัดรวมกันให้สุกและเข้าเนื้อกัน  รสชาติเผ็ดนำค่อนข้างมาก  แล้วก็เค็มหวาน  มีกลิ่นสมุนไพรเบา ๆ เหมาะกับการเอาข้าวเหนียวลงไปจิ้ม แล้วก็แกล้มด้วยผักสดนะคะ 

กุ้งจ่อมผัดสามรส (คุณย่านาง) .. เป็นน้ำพริกเปียกเหมือนกับ  ส่วนผสมก็จะเหมือน ๆ กับกุ้งจ่อมบอง แต่ว่าไม่มีปลาป่นค่ะ   รสชาติจะว่าไปก็คล้ายๆ กับกุ้งจ่อมบอง  แต่ว่าไม่เผ็ดเท่า โดยรวมก็จะนัว ๆ กว่า ให้อารมณ์ไปทางน้ำพริกเผาทรงเครื่องประมาณนั้นเลยนะคะ   พิมว่าตัวนี้เหมาะกับการคลุกข้าวดีเลยค่ะ  

น้ำพริกเปียกกุ้งจ่อม (แม่เนย) ... ชื่อเป็นน้ำพริกเปียก แต่ในความจริงจะเป็นน้ำพริกคั่วแห้งแต่ไม่แห้งมากนะคะ   ส่วนผสมก็จะมีกุ้งจ่อม ปลาป่น พริก ฯ ประมาณนี้    รสชาติกลมกล่อมกำลังดี เค็มนำนิด ๆ ไม่เผ็ดมาก  อันนี้อร่อย แนะนำเลยค่ะ 

น้ำพริกกุ้งจ่อม (แม่เนย) .. อันนี้เป็นน้ำพริกคั่วแห้ง คล้ายกับน้ำพริกเปียกกุ้งจ่อม แต่ว่าจะแห้งกว่า ร่วนกว่า  มีปลาแห้งให้เคี้ยวแบบเป็นชิ้นเป็นอันนะคะ   รสชาติเบา ๆ เค็มเปรี้ยวนำแบบนิด ๆ ใครที่ทานเผ็ดไม่ค่อยได้  ซื้อตัวนี้ได้เลยนะคะ 

สุดท้าย น้ำพริกกุ้งกระเทียม (แม่เนย) .. ตัวนี้จะเป็นการเอาส่วนผสมทุกอ่ยางไปคั่วให้แห้งกรอบก่อน แล้วค่อยมาผัดรวมกัน  ออกเค็มหวาน เผ็ดน้อย คล้าย ๆ น้ำพริกกุ้งเสียบทางภาคใต้ แต่ไม่หวานเท่า  อร่อยดีค่ะ

ใครสนใจตัวไหน ก็ลองไปหาซื้อกันดูนะคะ  ที่ถนนอำนวยกิจ  อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ รับรองว่าจะเป็นของฝากที่ถูกอกถูกใจคนรับแน่นอนค่า ^_^ 

สุดท้ายก่อนจะจากกันไปกับทริปกุ้งจ่อมในวันนี้ พิมก็มีสูตรกุ้งจ่อมเด็ด ๆ จากร้านกุ้งจ่อมชื่อดังมาฝากตามสัญญานะคะ  ใครที่เอาไปลองทำดูแล้ว ได้ผลยังไงก็มาเล่าให้พิมฟังบ้างน๊า  ส่วนพิมเดี๋ยวจะเอาไปลองทำดูบ้าง ได้ผลยังไง ก็จะมาเล่าให้ฟังเหมือนกันนะคะ  

ส่วนตอนนี้ไหน ๆ มาถึงบุรีรัมย์แล้ว  พิมก็ขอเก็บกระเป๋าไปเที่ยวสุรินทร์ต่อก่อนล่ะค่ะ  แล้วเจอกันอีกทีที่สุรินทร์นะคะ บ๊ายบายค่า ^_^

:: ส่วนผสม ::

- กุ้งฝอย 500 กรัม
- เกลือป่น 40 กรัม
- น้ำปลา 20 กรัม
- ข้าวคั่ว 100 กรัม

:: วิธีทำ ::

1. ล้างกุ้งให้สะอาด 3-4 ครั้ง แล้วเทกุ้งพักใส่กระชอนไว้ให้สะเด็ดน้ำนะคะ 

2. ใส่กุ้งลงในกระปุกที่จะใช้หมัก  (มีฝาปิด)  ใส่น้ำปลา กับเกลือป่นลงไป  เคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน ปิดฝาให้สนิท แล้วหมักไว้ประมาณ 2-3 วันค่ะ

3. พอครบเวลา เปิดฝากระปุก ใส่ข้าวคั่วลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดฝา แล้วหมักต่ออีก 5-7 วันนะคะ 

4. พอครบ 7 วัน ลองเปิดฝาแล้วหยิบกุ้งจ่อมมาชิมดูว่า เปรี้ยวตามที่ชอบไหม  ถ้าเปรี้ยวน้อยไป ให้หมักต่อ  แต่ถ้าเปรี้ยวพอแล้ว ให้ปิดฝา  แล้วเอาเข้าแช่ตู้เย็นไว้ (เพื่อหยุดความเปรี้ยว)  อยู่ในตู้เย็นได้ประมาณ 3 เดือนค่ะ