header



วันนี้พิมกับคุณสามีจะมาชวนเพื่อน ๆ ไปเที่ยวจังหวัดตราดกันนะคะ  จังหวัดตราดมีอะไร  มีสถานที่ท่องเที่ยวแบบไหน  แต่ละที่เดินทางไปยังไง  ที่สำคัญมีอาหารอะไรอร่อย ๆ บ้าง  .... เพื่อนๆ คนไหนสนใจ ตามพิมมาเลยค่า

ทริปนี้เนี่ยจะว่าไปเป็นทริปที่ตอนแรกพิมกับคุณสามีไม่ได้ตั้งใจไปนะคะ  คือยังไงดีล่ะ  เวลาเอ่ยถึงจังหวัดตราด ถ้าแบบไม่หาข้อมูลอะไรเลย พิมก็จะคิดว่าจังหวัดตราดก็มีแต่ทะเล มีแต่เกาะประมาณนี้อ่ะค่ะ    ซึ่งเกาะเด่นๆ ของจังหวัดตราดเท่าที่พิมพอรู้มา  ก็จะมีเกาะช้าง กับเกาะกูด  ที่ทาง Traveloka  ยกให้เป็นส่วนหนึ่งของ 8 อันดับเกาะสุดฮิตที่ห้ามพลาดสำหรับซัมเมอร์ปี 2017  เลยนะคะ   ซึ่งถ้าใครอยากไปเที่ยว 2 เกาะนี้แบบชิวๆ  ไม่อยากต้องไปลำบากหาที่จองเอาข้างหน้า  เพื่อน ๆ ก็สามารถเข้าไปจองที่พักบนเกาะ 2 เกาะนี้แบบล่วงหน้า ได้ที่ Traveloka  อ่ะค่ะ  เพราะนอกจากจะสะดวกสบายแล้ว  ก็ยังได้ราคาดีกว่าที่อื่น แถมไม่มีบัตรเครดิตก็จองได้ด้วยนะคะ  ^_^ 

unnamed 1

และก็นั่นแหละค่ะ  พอมีเพื่อนที่เห็นพิมไปเที่ยวต่างจังหวัดบ่อย ๆ มาบอกว่า เอ๊ยยย  พิมไม่ลองไปจังหวัดตราดดูเหรอ  ตราดมีอะไรดี ๆ มากกว่าที่พิมคิดเยอะเลยนะ  พิมก็เลยเริ่มสนใจตราดล่ะค่า  แล้วหลังจากหาข้อมูลจากทั่วทุกสารทิศ  ก็ได้มาเป็น #ทริปตราด ในวันนี้แหละจ้า 

ทริปตราดในครั้งนี้ของพิมกับคุณสามีเนี่ย เป็นทริป 4 วัน 3 คืนนะคะ  จริง ๆ ตราดน่ะมีอะไรเยอะมาก  มากกว่า 4 วัน 3 คืนจะเที่ยวหมดกินหมด  แต่ครั้งนี้พิมขอคัดแบบน่าสนใจ ๆ เน้น ๆ มาสักชุดนึงก่อน  แล้วเดี๋ยวถ้ามีเวลาอีกในเดือนหลัง ๆ พิมจะค่อยพามาเพื่อนๆ ไปเที่ยวตราดกันอีกสักรอบนะคะ 

trat 031

เริ่มต้นทริปครั้งนี้  กันที่บ้านพิมค่ะ  ....... พิมกับคุณสามีเริ่มต้นการเดินทางจากบ้านที่กรุงเทพฯ ตอนประมาณ 8 โมงกว่า ๆ นะคะ  ระหว่างทาง ตอนแรกเนี่ยฟ้าใสมากกก..กก.ก.ก.ใสแบบปิ๊ง ๆ เลย  แต่แล้วบางช่วงของการเดินทาง ก็มีฝนตกหนักเป็นระยะ ๆ  เลยกว่าจะไปถึงตัวเมืองตราด ก็ปาเข้าไปบ่ายโมงกว่า ๆ แล้วอ่ะค่ะ  แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับแผนการเดินทางที่พิมวางไว้ เพราะวันนี้พิมกะว่าเที่ยวและชิมแบบชิว ๆ ค่า ^_^ 

201

trat 002

trat 001

trat 003

มาถึงเมืองตราดเอาตอนบ่าย ๆ สิ่งแรกเลยที่รู้สึกคือ หิว..ที่สุด นะคะ  -*-  พิมเลยตรงไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวปูสุขุมวิทก่อน  ซึ่งร้านนี้เนี่ยเป็นร้านที่ใคร ๆ ต่างพูดกันว่า ถ้ามาเมืองตราด ต้องไม่ลืมมากินอาหารที่ร้านนี้ค่ะ ^_^

** ถ้าชอบก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา เกี๊ยวปลา แนะนำร้าน "ป้าสาวข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ"  ที่อยู่ในปั๊มเชลล์ ก่อนถึงตัวเมืองนะคะ  เป็นเกี๊ยวปลาที่รสชาติน้ำซุปแบบคนสมัยก่อน อร่อยดีค่ะ

trat 004

ร้านก๋วยเตี๋ยวปูสุขุมวิท เป็นร้านเล็ก ๆ หลังคามุงสังกะสี  อยู่ในซอยหลังตลาดเทศบาล อ. เมืองตราดนะคะ   ถ้าใครกลัวว่าจะมายาก ให้พิมพ์คำว่า  "ก๋วยเตี๋ยวปูสุขุมวิท" ใน Google Maps ได้เลย รับรองพี่ Google  พามาถูกที่แน่นอนค่ะ  

trat 005

trat 010

ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวปูเนี่ย เค้ามีเมนูหลากหลายนะคะ ไม่ว่าจะข้าว จะก๋วยเตี๋ยว

trat 006

แต่ที่พิมว่าเด็ดเลยก็คือเมนูนี้ค่ะ  ไข่ปูผัดพริกขี้หนูราดข้าว  ราคาจานละ 50 บาท   ไข่ปูหอม ๆ ทอดเล็กน้อยให้พอกรอบ ๆ แล้วเอามาผัดกับพริกขี้หนูกระเทียมเจียว  อารมณ์เหมือนผัดพริกเกลือ มีรสเค็มนิดๆ  กินคู่กับข้าวหอมมะลิแนมด้วยผักชีสด ๆ และพริกน้ำปลาสักหน่อย อร่อยที่สุดเลยค่ะ ^_^   (ในภาพพิมสั่งเผ็ด ๆ ก็เลยมีพริกขี้หนูเยอะนิดนึง)

trat 007

แต่ส่วนคุณสามีพิม  มื้อนี้เค้าบอกว่าอยากกินก๋วยเตี๋ยวก็จัดไปค่ะ  ก๋วยเตี๋ยวทะเลรวม ใส่ทั้งปู หมึก ปลา กุ้ง  แม้หน้าตาอาจจะตกแต่งไม่สวยงามสักเท่าไหร่ เพราะเป็นก๋วยเตี๋ยวแบบบ้านๆ  แต่รสชาติโอเคเลยนะคะ  น้ำซุปมีความหวานหอม มีกลิ่นของทะเลอยู่ค่า 

trat 008

แล้วขณะที่นั่งกินอยู่  ทางร้านก็มาถามว่าเอาน้ำมะพร้าวไหมคะ แก้วละ 20 บาท  (1 แก้ว คือ 1 ลูก)  ตอนนั้นพิมกับคุณสามีก็ไม่ได้คิดอะไร  เอาก็เอาค่ะ แก้วละ 20 บาทเอง  ปรากฎว่าอร่อยมากกกก น้ำมะพร้าวหวานหอมมาก (ไม่ใส่น้ำตาล)  แช่มาพอเย็น ๆ กินแล้วสดชื่นที่สุดเลยค่ะ แถมทางร้านเค้าแคะเอาเนื้อมะพร้าวจากลูกใส่แก้วมาให้ด้วย เราก็เลยไม่ต้องลำบากแคะเนื้อมะพร้าวเอง   ที่สำคัญเนื้อมะพร้าวนี่นุ่มนิ่มมาก  พอได้กินพร้อมกับน้ำมะพร้าว อร่อยที่สุดเลยค่ะ  เรียกได้ว่าถ้ามาร้านก๋วยเตี๋ยวปูสุขุมวิท ต้องไม่ลืมสั่งข้าวไข่ปูผัดพริกขี้หนูกับน้ำมะพร้าวมากินคู่กันนะคะ  รับรองไม่ผิดหวังค่า ^_^ 

ร้านนี้เปิด 8  โมงเช้า ปิดบ่าย 2 ครึ่งนะคะ เบอร์โทร 039-511972 จ้า

trat 009

อ้อ ๆ เกือบลืมเล่าแน่ะค่ะ ระหว่างนั่งกินเตี๋ยวปูกันอยู่  พิมก็ได้โทรคุยกับน้องเจ้าถิ่นคนนึงที่เป็นคนเมืองตราดมาตั้งแต่เกิด น้องเค้าบอกกับพิมและคุณสามีว่า  ที่ อ.เมืองตราดเนี่ย มีร้านลูกชิ้นปิ้งร้านนึงที่น้ำจิ้มอร่อยมากกกกกก  เป็นน้ำจิ้มที่มีรสหวานเปรี้ยวกลมกล่อมมาก  และเป็นสูตรที่ไม่ใช้แป้งในการทำให้ข้นเหนียว แต่จะใช้การเคี่ยวเป็นเวลาประมาณ 3 ชม. แทนนะคะ  ในเมื่อน้องเจ้าถิ่นพูดอย่างนี้   พิมก็ต้องไปลองซะหน่อยล่ะค่า ^^  

01

ร้านลูกชิ้นร้านนี้  เป็นร้านเล็กๆ ตั้งอยู่หน้าตึกแถวริมถนนที่อยู่ข้าง ๆ ห้างทองกรกช ข้างธนาคารกรุงเทพฯ นะคะ   ถ้าเดินมาจากร้านก๋วยเตี๋ยวปูล่ะก็ ประมาณ 6 นาที แต่ถ้าขับรถมาก็ประมาณ 2 นาทีเท่านั้นค่ะ  ที่ร้านนี้เนี่ยเค้าจะไม่ขายลูกชิ้นหลายอย่างนะคะ  จะขายแค่ลูกชิ้นหมูอย่างเดียว และก็ไส้กรอกอย่างเดียวเท่านั้น  ซึ่งตอนแรกพิมก็นึกไม่ออกนะคะว่าจะอร่อยยังไง เพราะแถวบ้านพิมก็มีลูกชิ้นย่างน้ำจิ้มประเภทนี้เยอะแยะเต็มไปหมดเลยอ่ะค่ะ    แต่พอได้ลองกิน ต้องบอกว่าด้วยรสสัมผัสของลูกชิ้น  ด้วยรสชาติน้ำจิ้ม และด้วยวิธีการย่างของเค้าที่มีความใส่ใจแบบพิเศษ ๆ  ทำให้รสชาติของลูกชิ้นและน้ำจิ้มมีความเข้ากันแบบสุดๆ  เลยออกมาอร่อยมากๆ เลยค่ะ  อร่อยขนาดที่ปกติพิมกินลูกชิ้น/ไส้กรอกแบบนี้ทีนึงไม่เกิน 2 ไม้ แต่นี่พิมกินเข้าไป 4 หรือ 5 ไม้เลยค่า  

trat 012

trat 011

หลังจากแวะกินของหนักและของเบารองท้องกันไปสักนิดหน่อยแล้ว  (นิดหน่อยจริง ๆ น๊าาา)  .... ก็ได้เวลาไปเช็คอินที่พัก เพื่อเก็บกระเป๋า และล้างหน้าล้างตากันสักหน่อยล่ะค่ะ  

trat 032

พูดถึงที่พักที่ในอำเภอเมืองตราดแล้ว จะว่าไปที่น่าสนใจก็มีหลายที่อยู่นะคะ  ไม่ว่าจะเป็นบ้านริมน้ำ  Toscana  เซ็นทารา The Artist Place  บ้านชานทะเล  Little Chick  และที่อื่นๆ   แต่เหตุที่คืนนี้พิมและคุณสามีเลือกพักที่บ้านริมคลองนี่ก็เพราะบ้านริมคลองอยู่ไม่ไกลจากตลาดเช้ามากนักนะคะ  คืออยู่ในระยะที่เดินได้สบาย ๆ พิมเลยกะว่าถ้าพักที่นี่ ตอนเช้าก็เดินไปตลาดเองได้  ไม่ต้องปลุกคุณสามีให้ต้องขับรถพาไปอ่ะนะคะ  แล้วราคาที่พักของที่นี่ก็ไม่สูง มีตั้งแต่ 650 950 และก็ 1200 บาท  ซึ่งพิมคิดว่าเป็นราคาที่ใคร ๆ ก็สามารถมาพักได้   ที่สำคัญคือ บูติคโฮเทลโดยทั่วไป มักจะไม่ค่อยมีที่จอดรถ   แต่ที่นี่มีที่จอดรถด้วย  แถมที่อยู่ใกล้ห้องพักสุด ๆ ขนาดเดินแค่ 20 ก้าวก็ถึง  ... มันเลยดีงามมาก ๆ ตรงนี้แหละค่ะ ^_^  

trat 033

trat 034

ห้องพักที่พิมจองได้วันนี้เป็นห้องพักราคา 950 บาทต่อคืนนะคะ  ตอนแรกที่พิมโทรมาถาม พี่ตู่ที่เป็นเจ้าของโฮเทลบอกว่าที่พักที่นี่มี 3 ราคา คือแบบห้องละ  650 ,  950 และ 1200 บาทค่ะ   พี่ตู่ก็ถามพิมว่าจะจองห้องแบบไหน   แต่พิมใช้เวลาคิดนานไปนิ๊ดดดดดดดนึง  2 วัน กว่าๆ ฮ่าๆ  ปรากฎว่าพอโทรไปจองอีกที เหลือแต่ห้องพักแบบ 950 ... ก็เลยไม่ต้องเลือกล่ะค่า ว่าจะเอาแบบไหน   ^_^ 

พูดถึงห้องพักห้องละ 950 บาท  ตอนแรกที่พิมดูจาภภาพในเนต  พิมก็ว่ามันไม่น่าจะแตกต่างจากห้องพักที่อื่นเท่าไหร่นะคะ   แต่เอาจริงๆ พอเปิดห้องเข้าไป  โอ้โห.ห.ห.ห. ห้องพักดีงามมากค่ะ  เตียงก็เป็นแบบเตียงใหญ่  นอนสบาย ผ้าห่มก็นหนานุ่ม  แถมยังมีหมอนให้หลายใบ เฟอร์ส่วนใหญ่เป็นโทนขาวครีมและสีไม้  ดูสบายตาดีเลยนะคะ     แต่เสียอย่างเดียวคือ ห้องพักที่นี่น้ำจากฝักบัวไม่ค่อยแรง  เวลาอาบน้ำกว่าจะล้างเสร็จเลยต้องใช้เวลาสักหน่อย  แต่ถ้าใครไม่รีบ ก็ไม่เป็นไร สบาย ๆ เลยอ่ะค่ะ 

trat 035

trat 036

หลังจากล้างหน้าล้างตาและให้คุณสามีนอนกลิ้งเกลือกอยู่บนเตียงพักนึง เพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการที่ต้องตื่นเช้า และขับรถมาเป็นระยะทางไกล ..... ก็ได้เวลาที่จะไปเที่ยวกันต่อแล้วล่ะค่ะ ^_^   แต่ก่อนจะไปเที่ยวต่อ ... พิมและคุณสามีขอไปหาอะไรรองท้องกันอีกสักนิ๊ดนึงก่อนนะคะ ัืืืืืืืืื  เพราะที่กินไปเมื่อกี้เริ่มจะย่อยหมดแล้วอ่ะค่า  ^^" 

เริ่มต้นกันที่ร้านแรกกับร้าน #กล้วยปิ้งป้านา .......  นะคะ 

trat 013

#กล้วยปิ้งป้านา ถือได้ว่าเป็นร้านกล้วยปิ้งในตำนานเลยอ่ะค่ะ  ด้วยความที่ป้านาขายมานาน  และน้ำราดกล้วยปิ้งของป้าก็อร่อยมาก  แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเราคุยกับคนเมืองตราดแล้วบอกว่าจะไปกินกล้วยปิ้งร้านป้านา  หลายคนอาจจะไม่รู้จักนะคะ  เพราะบางทีเวลาป้านาเจอลูกค้างี่เง่า ๆ  เช่น มาถึงหน้าร้านปุ๊บ ก็จะเอาเลยทั้งที่กล้วยปิ้งมันยังปิ้งไม่สุก  และแสดงอารมณ์ไม่พอใจใส่ป้า  ป้านาก็จะไม่ค่อยยิ้ม  หลายคนเลยมักจะเรียกกล้วยปิ้งป้านา ว่ากล้วยปิ้งหน้างอแทนอ่ะค่ะ  ทั้งที่จริงแล้วป้านาตัวจริงใจดีมากกกกกก และน่ารักมากกนะคะ  ^_^

พูดถึงป้านาไปแล้ว  จะไม่พูดถึงกล้วยปิ้งป้านาเลยก็คงไม่ใช่ที่ ... หลายคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ กล้วยปิ้งป้านาดีตรงไหน  กล้วยปิ้งมันก็คือกล้วยปิ้ง ก็เห็นมีขายกันเกลื่อนกลาดทั่วไป  แล้วกล้วยปิ้งป้านาล่ะมีดีอะไร  

trat 014

ความอร่อยของกล้วยปิ้งป้านา ถ้าจะให้พูดกันจริงๆ  แล้ว ก็มาจากความพิถีพิถันในการเลือกกล้วยและปิ้งกล้วยของป้านาอ่ะค่ะ   ป้าน้าจะบรรจงเลือกกล้วยเองทุกหวี  และปิ้งกล้วยบนเตาถ่านอย่างใจเย็น  ไม่เร่งใส่ถ่านให้แรง ๆ เพื่อให้กล้วยสุกไว  เพราะมันจะทำให้สัมผัสและรสชาติของกล้วยปิ้งเสีย   แถมน้ำราดกล้วยของป้าก็ยังมีการผสมผสานระหว่างน้ำตาลอ้อย น้ำตาลปี๊บ และน้ำตาลทราย ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมมาก ๆ เลยค่ะ  ที่สำคัญป้าจะเลือกกล้วยได้ตรงใจคนกินอย่างมากๆ  เช่น ถ้าชอบกล้วยห่ามก็บอกป้าเลยว่าเอากล้วยห่ามๆ นะ  ป้าก็จะเลือกเฉพาะแต่กล้วยห่ามให้ ป้าจะไม่ยัดเยียดเอากล้วยนิ่มใส่มาผสม  หรือถ้าลูกค้าชอบกล้วยนิ่ม ป้าก็จะไม่เอากล้วยห่ามใส่ลงไปด้วย ที่สำคัญป้านาขายราคาไม่แพง  ชุดนึงพร้อมน้ำจิ้มแค่ 20 บาทเท่านั้น  ทำให้กล้วยปิ้งป้านามีชื่อเสียง และมีความอร่อยถึงขนาดที่บางครั้งต้องมาต่อคิวซื้อกันเลยอ่ะค่า ^_^

trat 015

trat 021

 ว่าแล้วพิมก็เลยขอเคล็ดลับวิธีย่างกล้วยจากป้านาสักหน่อย  เผื่อว่าวันไหนตกงาน  (จากงานปัจจุบัน)  ไม่มีใครเค้าจ้างทำงานแบบนี้แล้ว  จะได้มาปิ้งกล้วยเลี้ยงชีพค่า ^_^ 

trat 017

trat 019

trat 020

 อ้อๆ เกือบลืม ที่ร้านป้านานอกจากจะมีกล้วยปิ้งอร่อย ๆ แล้ว ก็ยังมีน้ำกระเจี๊ยบ และน้ำระกำที่ป้านาชงไว้ขายลูกค้าที่มาซื้อกล้วยปิ้งอีกด้วยนะคะ   น่าเสียดายว่าวันที่พิมไป น้ำระกำหมดแล้ว เหลือแต่น้ำกระเจี๊ยบ  แต่ก็อร่อยชื่นใจสุด ๆ ไปเลยค่า 

trat 022

trat 023

trat 025

จากร้านป้านา เดินเลยมาทางตลาดสดนิ๊ดดดนึง  ก็จะเจอกับร้านในตำนานอีกร้านนึง ก็คือร้านขายหมึกย่างนะคะ 

trat 026

ถามว่าทำไมถึงเรียกว่าร้านในตำนาน  ... ก็เพราะว่าหมึกย่างร้านนี้เปิดขายมานานมากๆ แล้วอ่ะค่ะ  และที่สำคัญคือความอร่อยที่ไม่เหมือนใคร   เพราะปกติถ้าเราพูดถึงหมึกสดย่าง เราก็จะนึกถึงหมึกสดย่างแล้วจิ้มกับน้ำจิ้มเผ็ด ๆ เปรี้ยว ๆ ใช่ไหมคะ ... แต่ถ้ามากินหมึกย่างร้านนี้ ให้ลบความคิดนั้นทิ้งไปได้เลยค่ะ เพราะหมึกย่างของที่นี่แตกต่างจากที่เราคิดกันไว้อย่างสิ้นเชิง ^^"

trat 027

หมึกย่างของที่นี่จะเป็นหมึกย่างที่มีรสชาติเผ็ดหวานแบบสามรสนะคะ  ถ้าเพื่อน ๆ นึกไม่ออกว่าสามรสคือแบบไหน  ก็ให้นึกถึงเวลาที่เราซื้อหมึกบดแบน ๆ สีแดงส้ม ชุ่มน้ำซอส ตามตลาดหนองมนที่ขายเป็นขีด ๆ  50-60  บาท  (สมัยนี้น่าจะเกือบร้อย)  อะไรทำนองนั้นอ่ะค่ะ แบบว่ารสชาติอย่างเดียวกันเลย  ซึ่งวิธีการย่างหมึกของที่นี่ เค้าก็จะเอาหมึกสดตัวขาวๆ แบบไม่หมักอะไรเลยมาเสียบไม้นะคะ  แล้วนำไปย่าง พอเริ่มสุกก็เอาไปจุ่มในน้ำจิ้มสีแดง ๆ ที่มีรสเผ็ดหวาน  เสร็จแล้วก็เอาไปย่างต่อจนน้ำจิ้มแห้งหนึบ ๆ ติดตัวหมึก (ตรงนี้แหละทีเด็ดสุดๆ)   แล้วค่อยเอาลงมาจิ้มน้ำจิ้มอีกที  ก่อนจะใส่ถุงให้ลูกค้าอ่ะค่ะ  ซึ่งตอนแรกที่พิมยังไม่ได้ชิม พิมก็จินตนาการรสชาติไม่ออกนะคะ  แต่พอได้ชิมแล้ว ถึงกับร้องว้าวเลยค่า คือ มันอร่อยมากจริง ๆ หมึกสด ๆ กรอบ ๆ เนื้อเด้ง ๆ เคลือบไปด้วยน้ำจิ้มรสเผ็ดหวาน   ดีงามสุดๆ เลยค่ะ 

trat 028

แถมที่ดีงามพอ ๆ กับรสชาติ นั่นก็คือเรื่องของราคา   เพราะไม้ว่าจะหนวดล้วน หรือเนื้อหมึกล้วน ก็ราคาแค่ไม้ละ 12 บาทเท่านั้นเองค่ะ  พิมถามลูกสาวป้าสายว่าทำไมถึงขายราคานี้ได้  เพราะหมึกสมัยนี้ราคาก็ไม่ใช่ถูก ๆ แล้วนี่ก็ไม่ใช่หมึกอินโดที่โลละ 50-60 บาท  แต่เป็นหมึกไทยๆ  ที่จับได้ในทะเลไทยด้วยอ่ะ  ลูกสาวป้าสายก็บอกว่าเพราะเป็นหมึกที่จับได้จากแถวนี้นี่แหละค่ะ นอกจากจะสดปิ๊ง ๆ แล้ว ราคาก็ไม่แพง  ก็เลยขายราคานี้ได้  เพราะงั้นแล้วถ้าเพื่อนๆ คนไหนผ่านมาแถวนี้ อย่าลืมไปแวะชิมนะคะ ^_^ 

ปล. อย่าถามน๊าว่าคุณสามีกับพิมกินไปกันทั้งหมดกี่ไม้ เพราะนับไม่ได้ค่ะ  555

trat 031

trat 029

trat 030

จากร้านหมึกย่าง ... เราขับรถตรงไปไม่ไกล  ประมาณสัก 2 นาที หรือถ้าเดินก็สัก 5 นาที  เราก็จะถึงศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราดซึ่งเป็นสิ่งสำคัญคู่บ้านคู่เมืองตราด  เป็นศูนย์รวมจิตใจของทั้งคนไทยและคนจีนชาวเมืองตราดมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนะคะ 

ซึ่งภายในบริเวณศาลหลักเมือง จะมีเสาต้นใหญ่อยู่ 2 ต้น  ต้นที่สูงจะเป็นเสาหลักเมือง ส่วนต้นที่ต่ำจะเป็นเสาศิวลึงค์   เมื่อก่อนเสาศิวลึงค์จะอยู่ที่บ้านห้วยแร้ง  (ที่พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปเที่ยวกัน)  แต่เจ้าเมืองในสมัยนั้น เมื่อเดินทางไปห้วยแร้ง เห็นมีผู้คนกราบไหว้เสานี้กันเยอะ เพราะเชื่อว่าช่วยรักษาโรคภัยได้  ก็เลยอัญเชิญเสานั้นมาอยู่ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราด เพื่อให้เป็นของสำคัญคู่บ้านคู่เมืองตราดมาจนถึงปัจจุบันนี้อ่ะค่ะ   ส่วนศาลเจ้าพ่อนั้น แต่เดิมจะอยู่ด้านหลังศาลหลักเมืองนะคะ เป็นอาคารไม้มุงสังกะสี ต่อมาพอเวลาผ่านไปก็ชำรุดทรุดโทรมตามสภาพ  เลยมีการสร้างอาคารหลังใหม่ขึ้นมาแทน และมีการอัญเชิญเจ้าพ่อมาประทับด้วยอ่ะค่ะ 

trat 037

ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราด  นอกจากจะเป็นสถานที่คู่บ้านคู่เมืองตราดแล้ว ก็ยังเป็นศูนย์กลางเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยกับคนจีนในเมืองตราด  ดังนั้นแล้วทุกวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี  ก็จะมีการจัดงานฉลองที่เรียกเป็นภาษาไทยว่า “วันงานพลีเมือง” หรือเรียกเป็นภาษาจีนว่า “วันเซี่ยกงแซยิด”  หมายถึง วันเกิดเจ้าพ่อหลักเมืองนะคะ  ซึ่งในงานก็จะมีพิธีทำบุญตักบาตรแบบไทย  และนอกนั้นก็จะมีงานประจำปีศาล  คืองานปุงเถ้าม้าแบบจีน ในช่วงก่อน และหลังตรุษจีน 1 เดือนด้วยอ่ะค่ะ ^_^

trat 038

trat 039

อีกเรื่องนึงที่ทำให้คนเมืองตราดนิยมมาไหว้ขอพรจากเจ้าพ่อหลักเมือง ก็เพราะคนเมืองตราดเชื่อกันว่าเจ้าพ่อท่านใจดี  หากใครยังไม่มีลูก แล้วมาขอพรกับท่าน มาไหว้ท่าน ก็จะสมหวังในเวลาไม่นานด้วยอ่ะค่ะ  

trat 040

ก่อนกลับ ... น้องเจ้าถิ่นที่พาพิมไปไหว้เจ้าพ่อหลักเมืองก็ชวนให้พิมลองเสี่ยงเซียมซีดู   ตอนแรกพิมก็เฉยๆ นะคะ ไม่อยากเสี่ยง  เพราะปกติพิมเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรเสี่ยงทาย  ส่วนนึงกลัวว่าถ้าเจออะไรไม่ดีขึ้นมาแล้วจะไม่สบายใจ  แต่น้องก็คะยั้นคะยอบอกเอาหน่อยเถอะ   สรุปแล้วพิมก็เลยลองเสี่ยงดูสักครั้งค่ะ ปรากฎว่าออกมาดีงาม อ่านแล้วสบายใจ ยิ้มหน้าบานไปสามวันเลยค่า ^_^ 

trat 041

จากศาลเจ้าพ่อหลักเมือง  ก็ได้เวลาอาหารเย็นของพิมกับคุณสามีล่ะค่ะ  ... มื้อนี้เราสองคนได้รับคำแนะนำจากคนตราดเองเลยว่า ถ้าอยากกินอาหารพื้นบ้าน อาหารพื้นเมืองตราด ให้มาที่ #ภัตตาคารแสงฟ้า เลยนะคะ 

#ภัตตาคารแสงฟ้า เป็นร้านอาหารประจำเมืองตราดที่เปิดมานานหลายสิบปีแล้วค่ะ  แต่ด้วยความที่ร้านมีการ renovate อยู่เรื่อยๆ เพราะงั้นก็เลยจะเป็นร้านที่ดูทันยุคทันสมัยอยู่ตลอดเวลานะคะ 

trat 042

trat 044

 ที่ภัตตาคารแสงฟ้า มีเมนูเด็ด ๆ น่าสนใจอยู่หลายอย่าง  แต่ด้วยความที่พิมกับคุณสามี และน้องอีกคนนึงเท่านั้น    จะสั่งทุกอย่างที่เด็ด ๆ คงไม่ไหว -*-  ก็เลยเลือกสั่งแต่ที่เด็ด ๆ และอยากกินมาอ่ะค่ะ  

trat 045

และเมนูของร้านแสงฟ้าที่พิมอยากนะนำ  เมนูแรกก็คือ ต้มส้มระกำปลากะพง นะคะ .... ต้มส้มของที่นี่มีความพิเศษตรงที่ตอนทำเค้าจะใส่ระกำลงไปด้วยค่ะ ทำให้น้ำต้มส้มเนี่ยเข้มข้น  เปรี้ยวหวานกลมกล่อม และก็จะใส่พริกบดลงไปนิดหน่อย ทำให้มีรสเผ็ดเล็กน้อย ทานแล้วไม่เลี่ยน แถมยังช่วยชูรสชาติต้มส้มให้ชัดเจนมากขึ้นอีกด้วยนะคะ       ^_^ 

trat 046

จานถัดมาก็จะเป็นออส่วนสูตรเฉพาะของร้านแสงฟ้าค่ะ   เป็นออส่วนหอยนางรมที่ให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กับจะเป็นหอยทอด แต่ก็ไม่ใช่  แถมออส่วนทั่วไปเค้าจะกินกับถั่วงอก  แต่ออส่วนที่นี่เค้าจะกินคู่กับกะหล่ำปลีสดซอยละเอียดนะคะ  แล้วก็ทานคุ่กับซอสพริกสูตรของทางร้าน  ก็จะได้รสชาติอร่อยไปอีกแบบค่ะ 

trat 047

ต่อมาเป็นอีกจานที่พิมอยากแนะนำนะคะ ก็คือ หอยจ๊อปู ที่เน้น ๆ ปูเลยอ่ะค่ะ  ^_^ รสชาติของหอยจ๊อที่นี่จะไม่จัดมาก เป็นหอยจ๊อรสชาติแบบจีน ๆ  และมีความเผ็ดนิดๆ ของพริกไทยนะคะ   ทานคู่กับสับปะรดตราดสีทอง ซึ่งเป็นสับปะรดพันธุ์พื้นบ้านของเมืองตราด และน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเอง  อร่อยจนเผลอกินไปคนเดียว 5 ลูกเลยค่ะ  >_<  (คือทั้งจานมันมี 7 ลูกนะ 55) 

trat 048

และสำหรับจานสุดท้าย  จานนี้เนี่ยพิมยกนิ้วให้เป็นที่สุดของความอร่อยที่พิมได้กินที่ร้านแสงฟ้าในวันนี้เลย ก็คือ ปลาเห็ดโคนผัดพริกขิงนะคะ  ...  ซึ่งเมนูนี้เนี่ยทางร้านเค้าจะเอาปลาเห็ดโคน (ถ้าใครไม่รู้จัก ไป search ดูหน้าตาปลาใน google เลยน๊าา) มาแล่ไว้เฉพาะเนื้อ แล้วเอาไปชุบแป้งบาง ๆ ทอดให้กรอบค่ะ   จากนั้นก็ค่อยนำไปผัดกับเครื่องแกงผัดพริกขิงที่ทางร้านตำเอง  (ตำวันต่อวันนะคะ)  ปรุงรสเผ็ด เค็ม หวาน ตามแบบฉบับของผัดพริกขิง  แล้วทานคู่กับใบกะเพราทอดกรอบ  ราดด้วยน้ำต้มส้มปลากะพงชุ่ม ๆ นิ๊ดดนึง   ขอบกว่าทำเอาพิมกินข้าวหมดไป 2 จานเลยอ่ะค่ะ T__T   แบบว่าดาเมจรุนแรงมาก  555  

trat 049

trat 050

 ส่วนค่าเสียหายสำหรับมื้อนี้ บอกตรง ๆ เลยนะคะว่าไม่แพง  อาหารทั้งหมด 4 จาน รวมหอยจ๊อปูเน้น ๆ รวมข้าวเปล่า และน้ำดื่ม ราคาอยู่ที่ 500 กว่าบาทเองค่ะ  เรียกว่างานนี้ทั้งอร่อยทั้งสบายกระเป๋าเลยค่า ^_^ 

trat 051

จบจากอาหารมื้อเย็นที่ร้านแสงฟ้าแล้ว   ก่อนจะกลับเข้าที่พักเพื่อไปอาบน้ำพักผ่อน  พิมกับคุณสามีก็ขอไปตามหาขนมหวานอร่อย ๆ ทานสักหน่อย เพื่อเป็นการจบมื้อนี้อย่างสวยงามนะคะ ^_^   ซึ่งหลังจากสอบถามเจ้าถิ่นแล้ว  เค้าก็บอกว่าถ้าเป็นขนมหวานที่ขายตอนเย็น ๆ และอร่อยสุดๆ ล่ะก็ ต้อง #บัวลอยทรงเครื่อง  ที่อยู่ในซอยโรงแรมตราดเซ็นเตอร์  ซึ่งห่างจากร้านแสงฟ้าไปสักประมาณ 5 นาทีได้อ่ะค่ะ   

trat 052

บัวลอยทรงเครื่องของที่นี่ ดูเผิน ๆ ก็แทบจะไม่แตกต่างจากบัวลอยทรงเครื่องของเจ้าอื่นเลยนะคะ    แต่ถ้ารู้ความเป็นไปเป็นมาแล้ว จะพบว่าบัวลอยที่นี่อร่อยกว่าที่อื่นอย่างรู้สึกได้เลยค่า  ^_^

น้องเจ้าถิ่นเล่าให้พิมฟังว่า บัวลอยร้านนี้เค้าเปิดขายมานานแล้วนะคะ ตั้งแต่สมัยน้องยังเป็นเด็กๆ  ด้วยระยะเวลาที่กินกันมานาน คุยกันมานาน ก็เลยรู้ว่าป้าเจ้าของร้านเนี่ยพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบทุกอย่างที่จะเอามาทำบัวลอยมากๆ เลยอ่ะค่ะ  นับตั้งแต่ฟักทอง เผือก ป้าก็ต้องไปเลือกจากตลาดเอง  ไม่ใช่ว่าลูกไหนอันไหนก็ได้  ป้าจะต้องเลือกแบบเนื้อฟักทองเนื้อเผือกที่ป้ารู้สึกว่ามันใช่    มะพร้าวแก่ที่นำมาคั้นเป็นกะทิ ป้าก็จะต้องไปเลือกจากสวนเองทีละลูก และเอามาขูดเองคั้นเอง เพื่อให้ได้ความเข้มข้นของกะทิตามที่ป้าต้องการ   ส่วนมะพร้าวอ่อนก็ไม่ต่างกัน  ป้าก็ต้องไปเลือกจากที่สวนทีละลูกทีละทะลายเหมือนกันนะคะ  

และด้วยการทำอย่างใส่ใจตั้งใจ  แถมป้าใส่ทุกอย่างแบบเต็มที่  ไม่หวงเครื่อง  ก็เลยทำให้บัวลอยทรงเครื่องของป้าอร่อยมาก  มีความหวานหอมกำลังดี  และรสชาติกะทิเข้มข้นค่ะ   ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ คนไหนจะตามรอยพิมไปชิมล่ะก็  แนะนำว่าให้ไปสักไม่เกินทุ่มนึงนะคะ  เพราะถ้าหลังทุ่มนึงเนี่ย  คิวจะยาวมาก เผลอ ๆ รอเป็นครึ่งค่อนชั่วโมงกว่าจะได้กินอ่ะค่า ^_^ 

trat 053

trat 054

และหลังจากที่วันนี้พิมกับคุณสามีเที่ยวตะลอน ๆ กันทั้งวันแล้ว  ก็ได้เวลากลับเข้าที่พักไปอาบน้ำอาบท่า และเตรียมตัวนอน เพื่อลุยเที่ยวลุยกินในวันพรุ่งนี้ต่อล่ะนะคะ   ซึ่งตามแพลนที่พิมคิดเอาไว้  พิมว่าตอนเช้าจะเดินไปหาของกินพื้นบ้านที่ตลาดเช้าสักหน่อยอ่ะค่ะ  (ตลาดอยู่ใกล้ ๆ กับร้านขายหมึกย่าง เดินจากที่พักไปไม่ถึง 10 นาที)    เพราะได้ข่าวมาว่าที่ตลาดเช้าของที่นี่จะมีขนมพื้นบ้านอย่างพวกขนมบันดุก  ขนมชั้นสีแดงที่ทำจากครั่ง  มีข้าวเกรียบน้ำจิ้ม  ขนมถ้วยฟูน้ำตาลอ้อย   และก็มีข้าวต้มมันญวณด้วยะคะ   ซึ่งแค่ได้ยินชื่อนี่ พิมก็น้ำลายไหลแล้วค่าาา    ฮ่าๆ ........ ยังไงคืนนี้ไปอาบน้ำอาบท่านอนกันก่อน  แล้วพรุ่งนี้เช้าไปลุยตลาดสดด้วยกันอีกทีนะคะ   สวัสดีค่า ^_^  

trat 071



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก